พิธีอาบน้ำบำเพ็ญ มักจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี แต่ที่พิเศษที่สุดคือการอาบน้ำมนต์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงที่ตรงกับวันจันทร์ ซึ่งเรียกว่า “จันทร์ซ้อนจันทร์” หากปีใดมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจะถือว่ามีความเป็นมงคลเป็นพิเศษ โดยไม่ต้องรอถึงวันเพ็ญ พิธีนี้มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร โดยจะทำการอาบน้ำให้กับผู้ที่จะไปออกรบ เชื่อกันว่าจะช่วยล้างบาป เสริมเสน่ห์ และเรียกโชคลาภ เช่น งาน เงิน และความรัก รวมถึงการเรียกสามี
พิธีอาบน้ำบำเพ็ญ
ดาราศิลปินหลายคนก็นิยมเข้าร่วมพิธีนี้เพื่อเรียกงาน บางคนบอกว่าหลังจากทำพิธีแล้วมีงานเข้ามาอย่างมากมาย และมีดาราหลายคนที่เคยเข้าร่วมพิธีนี้ด้วย เพื่อเสริมสร้างบารมีให้กับตนเอง พิธี “อาบน้ำใต้แสงจันทร์” เป็นพิธีโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งเคยใช้สำหรับผู้ที่จะออกไปรบ ปัจจุบันพิธีนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ดารานักแสดงและคนมีชื่อเสียง แม้ว่าจะเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็มีหลายกรณีที่เห็นผลจากดารานักร้องหลายคน เพื่อให้คนรักมีความหลงใหลและรักใคร่มากยิ่งขึ้น
พิธีอาบน้ำแสงจันทร์ เป็นประเพณีที่มีมาเป็นเวลากว่า 30 ปี โดยมีความเชื่อว่าการอาบน้ำในคืนวันเพ็ญจะนำโชคลาภและเสน่ห์มาให้แก่ผู้ที่ทำพิธี นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าผู้ที่ประสบปัญหาสุขภาพหรือมีอาการเศร้าหมองจะรู้สึกดีขึ้นและหายจากโรคภัยไข้เจ็บหลังจากอาบน้ำเพ็ญ ในขณะเดียวกัน หมอดูและนักพยากรณ์ รวมถึงแพทย์แผนโบราณ ก็เชื่อว่าการอาบน้ำในคืนนี้จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการพยากรณ์และการรักษาโรคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ความจำดีและมีปฏิภาณไหวพริบ ช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความงดงามให้เปล่งประกายเหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อีกทั้งยังเสริมบารมีให้กับผู้ที่มีญาณเทพ มีองค์เทพคุ้มครอง ช่วยขจัดอำนาจของมนต์ดำและคุณไสย รวมถึงภูตผีปีศาจที่แฝงตัวอยู่ในร่างกาย ทำให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าผู้ที่ประสบปัญหาสุขภาพจากโรคต่างๆ จะได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอีกด้วย
พิธีอาบแสงจันทร์มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระล้างบาปและทำให้ร่างกายบริสุทธิ์ โดยช่วยให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้รับสิริมงคล และล้างสิ่งไม่ดีที่อาจทำไปโดยไม่รู้ตัวหรือกระทบต่อพ่อแม่ พิธีนี้มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรในยุคอโยธยา ขั้นตอนของพิธีจะต้องดำเนินการโดยการดำน้ำและท่องคาถาใต้น้ำ ซึ่งสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดคือเขาใหญ่ และควรทำในช่วงกลางคืนเพื่อให้ตรงตามตำราที่กำหนดไว้
การอาบน้ำในครั้งนี้เปรียบเสมือนการดำน้ำและท่องคาถาใต้น้ำ โดยน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำที่ไหลและสัมผัสกับผิวของเรา ตามตำรากล่าวว่า แม่พระคงคาจะไหลออกมาจากเกศาของแม่พระธรณี ซึ่งน้ำที่ใช้จะต้องเป็นน้ำพุที่เกิดจากใต้ดิน เมื่อเห็นน้ำก็จะรู้ว่าสะอาดและสามารถดื่มได้ นอกจากนี้ สถานที่นั้นควรมีต้นตะเคียนใหญ่ตั้งอยู่ด้วย เพื่อให้พลังงานจากโลกและวิญญาณไหลผ่านไปมา และเมื่อมีเทวดาที่สถิตอยู่ที่อ่างน้ำ นางไม้จะมาชื่นชมว่า มนุษย์ผู้นี้รู้ได้อย่างไรถึงพิธีกรรมโบราณที่มีมา 2-3 พันปี การไปยังสถานที่ที่น่ากลัวจะช่วยให้จิตใจของเรากล้าหาญขึ้น และทำให้สิ่งไม่ดีสามารถออกไปได้ง่าย นี่คือเคล็ดลับที่สำคัญ
ต้องอัญเชิญแม่พระคงคา เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา และนางไม้ทั้งหลาย เพื่อให้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของมนุษย์ผู้นี้ที่ต้องการการชำระร่างกาย ขอให้ครูบาอาจารย์หรือสิ่งที่มีอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์มาช่วยปัดเป่าในสังขารของเขา มาร่วมกันเสกและทำให้เขาบริสุทธิ์ จากนั้นจึงจะให้ลูกศิษย์ลงไปดำน้ำ และต้องท่องคาถาในน้ำด้วย
เขาเรียกว่า “โอมชำระ มหานที สักขาระ ชำประสิทธิเม” ยิ่งทำบ่อยก็ยิ่งดี ยิ่งท่องได้มากก็ยิ่งได้เปรียบ หากท่องได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือจิตใจของเรา ไม่สามารถบังคับได้ ก่อนที่จะเริ่มต้องมีการตอบแทน โดยการกล่าวคำอวยพรและขอบคุณที่ให้ความสะอาดแก่ร่างกายของเรา ซึ่งเรียกว่าเป็นการอวยพรสรรเสริญต่อวิญญาณ เมื่อเราได้รับความดีแล้วจะมีทั้งหมด 3 ขั้นตอน คือ ก่อนลง ลง และขึ้น ไม่จำเป็นต้องทำตามจำนวนที่กำหนด ขึ้นอยู่กับความสะดวก หากทำมากก็จะดีต่อตัวเรา แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ทำแค่ครั้งเดียวก็ได้ ไม่มีข้อห้าม แต่ควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายที่โป๊เปลือย
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าร่วมพิธีได้ หรือผู้ที่อยู่ในเมืองก็สามารถทำได้เช่นกัน ตามความเชื่อของคนโบราณ มักจะมีการตักน้ำจากแม่น้ำหรือลำคลองที่ไหลผ่านหน้าบ้านในเวลาเที่ยงคืน โดยนำมาสระอาบในช่วงเวลาดังกล่าว หรือสามารถนำภาชนะใส่น้ำไปตั้งไว้กลางแจ้ง รอจนกระทั่งเงาของพระจันทร์สะท้อนอยู่ในขันน้ำมนต์หรือภาชนะนั้น ซึ่งเป็นการนำธาตุน้ำมารับแสงจันทร์ ธาตุน้ำในช่วงเวลานี้จะซึมซับพลังงานจากพระจันทร์ในช่วงที่เต็มดวงอย่างเต็มที่ จากนั้นจึงสามารถนำไปอาบได้ ถือว่าเป็นสิริมงคลเช่นกัน สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ