วัดไผ่โรงวัว นั้นคือหนึ่งใน วัดสวยเมืองไทย อีกทั้งยังเป็น วัดดังสุพรรณบุรี อีกด้วยครับ เนื่องจากมีพระพุทธรูปองค์สีขาวขนาดใหญ่ เด่นสง่าอลังการที่ตั้งอยู่กลางวัด และสิ่งที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดเลย ก็คือประติมากรรมปูนปั้น ที่ไม่ได้มีแค่เพียงเรื่องราวของสวรรค์นรกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะมีอะไรบ้างนั้น ลองตามเราไปเที่ยว วัดสวยสุพรรณบุรี แห่งนี้กันดีกว่า
วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี
ประวัติและความเป็นมา
ตามประวัติของกรมศาสนา วัดไผ่ โรงวัว เริ่มมีการก่อตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. 2469 ที่ริมคลองพระยาบันลือ ซึ่งเป็นคลองที่มีการขุดในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นคลองเชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำท่าจีน วัดไผ่ โรงวัวนั้นเริ่มต้นด้วยการสร้างในเนื้อที่ทั้งหมด 20 ไร่ แต่เดิมเป็นที่ดอน มีกอไผ่ขึ้นเต็มทั้งพื้นที่ เมื่อถึงฤดูน้ำ ชาวบ้านก็จะเอาวัว เอาควายมาเลี้ยงบนที่ดอนนี้โดยมีการปลูกโรงวัวให้อาศัย
โดยต่อมานั้นได้คิดสร้างสำนักสงฆ์ขึ้น จึงได้ให้ชื่อว่าสำนักสงฆ์นั้นว่า “ไผ่โรงวัว” จวบจนกระทั่งกลายมาเป็นวัด ก็ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “วัดโพธาราม” แต่ไม่ค่อยจะมีใครเรียก แม้แต่ชาวต่างจังหวัดเอง ก็เรียกกันว่าวัดไผ่ โรงวัว ทางวัดจึงได้เปลี่ยนชื่อกลับมาใช้เป็น “วัดไผ่ โรงวัว” อย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบันครับ
ความน่าสนใจของวัด
วัดไผ่ โรงวัว นั้นอยู่ที่ ตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เรียกว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอย่างมาก ที่มีผู้คนต่างนิยมพากันเดินทางมากราบไหว้สักการะกัน โดยภายในวัดแห่งนี้ ก็จะมีพระพุทธรูปปูนปั้นองค์สีขาว ที่ต้องบอกว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของทางวัด เพราะมีขนาดใหญ่ และประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง โดยมีชื่อว่า พระกกุสันโธ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่บริเวณหน้าองค์พระนั้นจะมีฆ้อง และบาตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่อีกด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมี พระพุทธโคดม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ตอนปี พ.ศ. 2502 โดยใช้เวลามากถึง 17 ปี ในการสร้างเลยครับ และเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปี พ.ศ.2512 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลาอีกด้วยนะครับ โดยภายในวัดแห่งนี้ ต้องบอกว่ามีสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาอื่น ๆ อีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น สังเวชนียสถาน 4 ตำบล คือ สถานที่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรางประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน ครับ และมี ประติมากรรมปูนปั้น ที่เกี่ยวกับพุทธประวัติ หรือเมืองจำลองสวรรค์และนรก รวมทั้งยังมีวรรณคดีและประวัติศาสตร์ อีกด้วยครับ
และทาง วัดไผโรงวัว นั้นยังมี พระธรรมจักร ที่ได้หล่อด้วยทองสำริดซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก ส่วน พระวิหารร้อยยอด นั้น ก็จะตั้งอยู่ตรงกลางโดยมีน้ำอยู่ล้อมรอบ โดยเป็นวิหารทรงไทยจัตุรมุขสีขาว และมีศิลปะไทยผสมผสานอินเดียเข้ากับลวดลายปูนปั้นที่สวยสดงดงาม ส่วนหลังคานั้นจะเต็มไปด้วยยอดแหลมคล้าย ๆ เจดีย์เยอะแยะมากมาย เลยทำให้เป็นที่มาของโบสถ์ร้อยยอด นั่นเองครับ ส่วนภายในวิหารน้้นได้ประดิษฐาน พระประทานพร ส่วนผนังด้านข้างของพระอุโบสถ นั้นจะเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับทางความเชื่อของพุทธศาสนา
อีกทั้งยังรวมไปถึงสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ อีกมากมายที่มีอยู่ภายในวัด ไม่ว่าจะเป็น ปราสาท 3 ชั้น ที่จำลองฤดูทั้ง 3 ของเจ้าชายสิทธัตถะ โดยเมื่อเราเดินเข้าไปก็จะพบกับรูปปั้นของเจ้าชายสิทธัตถะทันทีครับ และยังสามารถที่จะเดินขึ้นชั้นบนสุดเพื่อชมวิวรอบ ๆ วัดไผโรงวัว ได้อีกด้วย และบริเวณด้านหลังน้้นจะมีสวนเมืองกบิลพัสดุ์แบบจำลองอีกด้วยครับ ทำให้ วัดไผ่โรงวัว แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนกันมาเยี่ยมชมกันอย่างต่อเนื่องเลยครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ