และแล้วก็ถึง ช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งปี 67 นี้จะตรงกับวันที่ 3 – 11 ตุลาคม เป็นเวลาจำนวน 9 วัน แต่ในบางคนอาจเริ่มล้างท้องกันตั้งแต่มื้อเย็นของวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่งจะรวมเป็น 10 วันครับ วันนี้เราจะพาไปาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกินเจ รวมถึงความหมายของคำว่า “เจ” พร้อมกับเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องกินเจ หากกินเจแล้วได้อะไร แล้วถ้าเราจะกินเจ อะไรที่ห้ามกินบ้าง และกินอะไรได้บ้าง ตลอดไปจนถึงข้อควรปฏิบัติที่ยึดถือกันอยู่ในปัจจุบัน เชื่อกันว่าถ้าปฏิบัติได้ครบทุกข้อจึงจะเข้า ถึงการกินเจที่ถูกต้อง เรามาหาคำตอบกัน
เทศกาลกินเจ คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร
ความเป็นมาของเทศกาลการกินเจ นั้นได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีที่ผ่านมาครับ โดยเริ่มมาตั้งแต่ในสมัยที่ชาวจีน ได้ถูกรุกรานโดยชนชาติแมนจู ปัจจุบันนี้การกินเจ ได้กลายเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน โดยจะทำการถือศีลกินเจเป็นเวลาทั้งหมด 9 วัน 9 คืน ช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจีน ซึ่งจะตรงกับเดือน 11 ตามปฏิทินไทย ครับ สำหรับการกินเจนั้น มีจุดประสงค์เพื่อชำระล้างร่างกายและจิตใจ ทั้งเป็นการละเว้นการเบียดเบียนชีวิตทั้งปวง และเพื่อเป็นการสักการะเทพเจ้าและบรรพบุรุษ ตามความเชื่อของชาวจีนครับ
อยากกินเจต้องทำอย่างไรบ้าง
ก่อนถึงวันเริ่มต้นเทศกาลจริงประมาณ 1 – 2 วัน เราจะต้องเตรียมตัวโดยการ ทำให้ร่างกายมีความสมดุลและบริสุทธิ์มากที่สุด ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า การล้างท้อง โดยจะเป็นการเปิดโอกาสให้ร่างกายของเราได้พักผ่อนจากสารพิษที่สะสมมาจากเนื้อสัตว์ เพื่อรองรับพลังงานบวกจากการกินเจ ที่จะช่วยให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับสภาพ และสามารถทำความคุ้นเคยกับการกินเจได้ดียิ่งขึ้น และยังมีความหมายทางจิตวิญญาณอีกด้วย เพราะถือว่าเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยการละเว้นการเบียดเบียน ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อเตรียมพร้อมรับการสวดมนต์บูชาเทพเจ้าในช่วงเทศกาล
“การล้างท้อง” ก่อนกินเจ ต้องทำอย่างไร
นอกจากเรื่องการล้างพิษออกจากทางกาย กานล้างท้องยังมีความหมายทางจิตวิญญาณ ถือเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ขั้นตอน “การล้างท้อง” คือ หยุดบริโภคเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์อย่างน้อย 1 – 3 วัน ก่อนถึงวันกินเจ ควรงดอาหารรสจัดและกลิ่นแรง ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายๆ เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชต่างๆ และที่สำคัญอีอย่าง คือ การทำจิตใจให้สงบ
กินเจแล้วได้ประโยชน์ตรงไหน
เชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะสงสัยว่า “กินเจเพื่ออะไร” กินแล้วมีประโยชน์ตรงไหน ต้องบอกเลยครับว่า ประโยชน์ของการกินเจมีอยู่ด้วยกันหลายประการ อย่างเช่น เรื่องของสุขภาพ เพราะอาหารเจนั้นเป็นอาหารชีวจิต เมื่อเรากินติดต่อกันแล้วจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวในภาวะสมดุล ทำให้สามารถขับถ่ายสารพิษ รวมถึงของเสียต่าง ๆ ออกมาจากร่างกายได้ ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายของเรามีความเสถียรมากขึ้น แถมผิวพรรณนั้นก็สดใสขึ้นอีกด้วย และการกินเจถือเป็นการทำบุญอีกอย่างนึง เนื่องจากการไม่กินเนื้อสัตว์ ทั้งยังงดของมึนเมา หรืออบายมุขทั้งหลายด้วยครับ
ช่วงกินเจ อะไรกินได้ อะไรห้ามกิน
การกินเจ สิ่งสำคัญหลัก ๆ ที่เราจะได้ นั่นก็คือการไม่เบียดเบียนสัตว์โลก และยังทำให้จิตใจเราผ่องใสมากขึ้นด้วยครับ เพราะเป็นการเว้นกรรม ที่เกิดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ส่วนผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่างที่ไม่ควรกิน ได้แก่ กระเทียม (ส่งผลกระทบต่อหัวใจ), ต้นหอม (ส่งผลกระทบต่อไต), กระเทียมโทน (ส่งผลกระทบต่อม้าม), กุยช่าย (ส่งผลกระทบต่อตับ) และ ใบยาสูบ (ส่งผลกระทบต่อปอดเมื่อใช้สูบ) ต่อไปจะเป็นพวกผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาหารที่มีรสจัด พวกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และที่สำคัญไม่ใช้ภาชนะที่ใช้ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ โดยจะต้องทานอาหารที่ปรุงจากคนที่กินเจด้วยกันเท่านั้น ครับ
และถึงแม้ว่าการ “กินเจ” อาจจะดูเป็นเรื่องที่ยาก โดยเฉพาะกับคนที่ชอบทานเนื้อสัตว์อยู่บ้าง แต่ถ้าหากได้ลองกินเจกันดูสักครั้ง ก็อาจทำให้รู้สึกติดใจและอยากร่วม เทศกาลกินเจ ในปีต่อ ๆ ไปก็ได้ครับ เพราะนอกจากเราจะได้สุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว ยังได้รู้สึกอิ่มบุญอิ่มใจจากการถือศีลอีกด้วยครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะมีเรื่องราวดีๆ อะไรมาบอกกันอีก สามารถรอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ