สำหรับ เทศกาลไหว้พระพิฆเนศ หรือ เทศกาลคเณศจตุรถี นั้นชาวฮินดูต่างเชื่อกันว่าคือวันประสูติของ พระพิฆเนศ และยังเป็นวันที่พระองค์จะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อประทานพร จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมมากที่สุด หากต้องการบูชาท่านเพื่อให้ชีวิตของเรามีแต่ความเจริญรุ่งเรือง พูดมาขนาดนี้แล้วคงมีใครหลายคนที่อยากทราบถึงความเป็นมาของเทศกาลนี้ วันนี้เราก็มีเรื่องราวของ เทศกาลคเณศจตุรถีมาฝากให้ได้ทราบเช่นกันครับ พร้อมๆกับวิธีบูชาท่านเพื่อส่งเสริมให้ชีวิตยิ่งประสบความสำเร็จ
พระพิฆเนศ คืออะไร
พระพิฆเนศ ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งปัญญา ความสำเร็จ และการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งชาวฮินดูมีความเชื่อกันว่าพระพิฆเนศนั้นสามารถช่วยประทานพรให้ประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ความรัก สุขภาพ และการทำงาน และพระองค์ยังเป็นเทพประทับในไพ่เทวะมันตรา พยากรณ์ ซึ่งเป็นไพ่พยากรณ์ที่จะสามารถเปิดโลกพลังพิเศษแห่งดวงตาที่สาม จึงทำให้รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อปลดล็อกความรู้สึกภายในเพื่อเป็นการเปิดรับแต่สิ่งดี ๆ ให้สำหรับผู้ที่ได้รับการทำนายครับ
เทศกาลเทศกาลไหว้พระพิฆเนศ หรือ คเณศจตุรถี คืออะไร
คเณศจตุรถี ก็คือ พิธีสักการะพระคเณศ โดยทำการยึดถือเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองการประสูติของพระองค์ จตุรถี นั้นแปลว่า ลำดับที่ 4 ซึ่งจะหมายถึงวันขึ้น 4 ค่ำในเดือนภัทรบท หรือวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 10 ตรงตามปฏิทินฮินดู ซึ่งจะอยู่ในช่วงราว ๆ กลางเดือนสิงหาคม และกันยายนของทุก ๆ ปี นั่นเองครับ
เทวรูปพระคเณศขึ้นจะถูกปั้นขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ดินเหนียว หรือ พวกวัสดุอื่นๆ จากนั้นจึงนำมาสร้างเป็นมณฑปไว้ฐานเทวรูปว และเชิญพราหมณ์มาประกอบพิธี “ปราณประติษฐา” ซึ่งเป็นการรทำให้เทวรูปมีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมานั่นเองครับ ต่อมาจะเป็นการบูชาจำนวน 16 ขั้นตอน โดยจะเป็นไปตามหลักศาสนาที่เรียกกันว่า โษทโศปจาร เช่น การสรงน้ำด้วยนม หรือ น้ำผึ้ง และการบูชาด้วยดอกไม้ รวมถึงเครื่องบูชาต่างๆ สวดมนต์ “คเณศาถรวศีรษะ” หรือ คเณศอุปนิษัท ตามคัมภีร์พระเวท บูชาด้วยประทีป หรือการอารตี จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายครับ
ด้านการประดิษฐานพระคเณศ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 4 ค่ำ จนไปถึงวันขึ้น 14 ค่ำ เป็นเวลาทั้งหมด 10 วัน ซึ่งในทุกวันจะมีการชุมนุมและพากันสวดมนต์ พร้อมทำพิธีอารตีในช่วงเวลาค่ำ เมื่อถึงวันที่ 11 หรือวันทำา พิธีวิสรชัน (พิธีส่งเทพเจ้ากลับเทวโลก) และในวันนั้นจะมีการจัดขบวนแห่เทวรูปไปตามบนท้องถนน และมีการบรรเลงดนตรี พร้อมกับเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน
ทั้งมีการร้องตะโกนเพื่อถวายพระพรแด่องค์พระคเณศ และแห่ไปยังทะเล หรือแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็นำเทวรูปลอยลงไป เท่ากับเป็นการส่งพระคเณศกลับยังเทวโลก ซึ่งชาวอินเดียต่างเชื่อกันว่าการที่เทวรูปนั้นสลายสู่สภาวะเดิม เป็นการแสดงถึงสภาวะของธรรมชาติ และถือว่าทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ต่อการเพาะปลูกด้วยครับ เพราะแม่น้ำและดินจะได้รับพรจากองค์เทวรูปที่ได้ผ่านพิธีกรรมไปแล้วด้วยนั่นเอง
การบูชาพระพิฆเนศในเทศกาลคเณศจตุรถี
แม้ว่าในประเทศไทยจะมีหลายสถานที่ที่จัดพิธีคเณศจตุรถี แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกเข้าร่วมพิธี ก็สามารถบูชาองค์พระพิฆเนศได้ด้วยตัวเอง โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้
- ทำความสะอาดหิ้งพระ และห้องบูชา เพื่อเป็นการรับเสด็จการมาของพระองค์
- จัดโต๊ะบูชาเล็ก ๆ แยกจากหิ้งพระ ปูด้วยผ้าสีแดง หรือ สีส้มแล้วอัญเชิญเทวรูปพระพิฆเนศมาประทับไว้
- อาบน้ำชำระกายให้สะอาด
- อัญเชิญท่านาจากหิ้งบูชา ปกตินั้นจะนิยมเป็นปางนั่งเสียมากกว่าครับ เพราะท่านต้องมาประทับอยู่ภายในเราจำนวน 10 วัน แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เคร่งครัดถึงขนาดนั้น สะดวกปางไหนก็ใช้ตามนั้น
- นำท่านมาสรงน้ำ เช็ดด้วยผ้าให้สะอาดสะอ้าน
- เตรียมของไหว้ให้พร้อม โดยจะมี ธูป กำยาน กระถางธูปหรือโถกำยานและเทียน 2 เล่ม ผลไม้มงคล ได้แก่ กล้วยและมะพร้าว พร้อมด้วยน้ำดื่มสะอาด นม และขนมหวาน รวมกันแล้ว 5 ชนิดขึ้นไป จากนั้นนำเมล็ดข้าวสาร รวมถึงเมล็ดถั่วชนิดต่างๆ มาจัดใส่จาน
- เตรียมดอกไม้สดสวย ๆ เช่น ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกบัว
- ถวายทุกอย่างพร้อมกัน แล้วสวดภาวนาด้วยบทมันตรา 9 จบ หรือ 108 จบ
- อธิษฐานขอพร
หมายเหตุ : การบูชานี้ควรทำติดต่อกันเป็นเวลา 3, 5, 7, 9 หรือ11 วัน ตามความสะดวก โดยในวันสุดท้ายก็ให้นำเทวรูปมาสรงน้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะอัญเชิญขึ้นหิ้งตามเดิมครับ
คาถาไหว้พระพิฆเนศ หรือ บทมันตราบูชาพระพิฆเนศ
เริ่มด้วยสวด “โอม ศรี คเณศายา นามาฮา” ( ทำการสวดทั้งหมด 9 จบ หรือจะเป็น 108 จบ ได้ตามความสะดวก) สวดเสร็จตั้งจิตอธิษฐานเพื่อขอพร แล้วจบด้วยการท่อง “โอม ศานติ ศานติ ศานติ” เป็นอันจบพิธี
เทศกาลไหว้พระพิฆเนศ หรือ เทศกาลคเณศจตุรถี เป็นเทศกาลสำหรับผู้ที่มีความเคารพนับถือและบูชาพระพิฆเนศเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการช่วยเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว ให้ทำการสิ่งใดจะได้มีแต่สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะมีเรื่องราวดีๆ อะไรมาฝากกันอีก รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ