ขับรถไปทำบุญสักการะ หลวงพ่อแขนลาย ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ กันที่จังหวัดอยุธยากันดีกว่า เป็นที่เที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และยังเป็นวัดโบราณที่หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก วัดนี้มีชื่อว่า วัดศาลาปูนวรวิหาร ถ้าได้ไปเยือนต้องไม่พลาดที่จะกราบไหว้ขอพรจาก พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อแขนราย ที่มีชื่อเสียงด้วยครับ
เที่ยวไหว้พระ หลวงพ่อแขนลาย วัดศาลาปูนวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา
ประวัติและความเป็นมาของวัด

วัดศาลาปูนวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโทประเภทวรวิหาร และเป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ริมคลองแม่น้ำลพบุรีเดิม อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการสร้างวัดนี้ ทั้งผู้สร้างและช่วงเวลาที่สร้าง วัดศาลาปูนมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สูง เพราะตั้งอยู่ติดกับคลองมหานาค ซึ่งเป็นคลองยุทธศาสตร์ที่ขุดจากบริเวณภูเขาทองไปจนถึงแม่น้ำลพบุรี
ความน่าสนใจภายในวัด

ภายในวัดศาลาปูนวรวิหาร ประกอบด้วยพระอุโบสถที่สร้างด้วยอิฐและปูน ตัวอาคารมีหลังคาไม้รูปทรงจั่วสามชั้น โดยมีพระปรางค์ที่ย่อมุมไม้ยี่สิบตั้งขนาบข้างด้านหน้าของพระอุโบสถ ด้านหลังของพระอุโบสถมีเจดีย์ทรงระฆังที่ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณซึ่งมีความสูง
พระพุทธรูปแขนลาย

มีพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเรียกว่า พระแขนลาย เป็นศิลปะก่อนยุคอยุธยา พระพุทธรูปนั่งมีหน้าตักกว้าง 29 นิ้ว มีลักษณะคล้ายพระอัครสาวก คือ พระโมคคัลลาและพระสารีบุตร พระพุทธรูปนี้ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่าสามารถขอพรให้ประสบความสำเร็จในโชคลาภ และช่วยปัดเป่าโรคภัยได้ แม้ว่าจะเคยถูกโจรกรรมหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ
“หลวงพ่อพระแขนลาย” เป็นที่กล่าวขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ ใครมาขอพรแล้วก็มักจะสมหวังเสมอ จึงมีผู้คนมากมายที่ได้รับพรสมปรารถนา นำของมาถวายพระแขนลายมากมาย เช่น มะพร้าวอ่อนและไข่ไก่ บางคนถวายถึง 10,000 ฟอง นอกจากนี้ยังมีการนำทองคำและสร้อยคอทองคำมาถวายด้วย ซึ่งทองคำที่ได้รับ ทางวัดจะนำเข้ากองทุนนิธิ ขณะที่ไข่ไก่และมะพร้าวอ่อน ทางวัดจะนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน
พระแขนลายเคยถูกขโมยออกจากวัดถึงสองครั้ง แต่ทั้งสองครั้งโจรไม่สามารถนำหลวงพ่อออกไปไกลจากวัดได้ และถูกติดตามกลับมาเสมอ ครั้งแรก รถที่โจรใช้ขโมยเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ส่วนครั้งที่สองมีฟ้าผ่าและพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้โจรไม่สามารถนำหลวงพ่อออกจากวัดได้
พระพุทธรูปนาคปรก
เป็นพระพุทธรูปที่ประจำคนเกิดวันเสาร์ มีพุทธลักษณะที่สร้างตามเหตุการณ์ในพุทธประวัติ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าได้รับการตรัสรู้แล้ว ในสัปดาห์ที่สาม พระพุทธองค์ได้ประทับใต้ต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ขณะที่ฝนตกไม่หยุดนานถึง 7 วัน พญานาคที่ชื่อว่า “มุจลินท์นาคราช” ได้แสดงอิทธิฤทธิ์โดยวงขนด 7 รอบและแผ่พังพานปกป้องพระพุทธเจ้า จนเมื่อฝนหยุด พญานาคจึงแปลงกายเป็นมานพเพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
เหตุที่ปางนี้ถูกกำหนดให้ประจำวันเสาร์ เพราะวันเสาร์ถือเป็นวันแข็ง และดาวเสาร์เป็นดาวบาปเคราะห์ขนาดใหญ่ ผู้ที่เกิดในวันนี้จึงมักมีชะตาอาภัพ มีเรื่องทุกข์ใจบ่อยครั้ง ผิดหวัง และเจออุปสรรคเป็นประจำ ดังนั้น โบราณจึงกำหนดให้พระนาคปรกเป็นประจำวันเสาร์ เปรียบเสมือนให้พญานาคราชแผ่พังพานเพื่อปกป้องและคุ้มครองผู้เกิดวันเสาร์จากทุกข์และภัยพิบัติต่าง ๆ

ดาวเสาร์ยังใช้เลข 7 เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเศียรของพญานาคและการวงขนดเป็น 7 รอบ นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าพระในปางนี้ศักดิ์สิทธิ์ด้านเมตตา ซึ่งเป็นการสอนทางอ้อมให้ระลึกถึงอานิสงส์ของความเมตตาที่จะส่งผลดีต่อผู้ปฏิบัติ อย่างที่พญานาคขึ้นจากน้ำเพื่อถวายอารักขาพระพุทธเจ้า ก็เพราะสัมผัสได้ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ดังนั้น คนที่เกิดวันเสาร์ซึ่งมักเป็นเจ้าทุกข์ จึงควรฝึกมีเมตตาอยู่เสมอ เพื่อให้ความทุกข์ลดลง
ส่วนจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถมีความคล้ายคลึงกับวัดหน้าพระเมรุ ทำให้บรรยากาศภายในมีความงดงามและทรงคุณค่า จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถมีความคล้ายกับที่วัดหน้าพระเมรุ
ข้อมูลของ วัดศาลาปูนวรวิหาร อยุธยา
- สถานที่ตั้ง : อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- พิกัด : https://goo.gl/maps/7ZtqX9eHRhz4PXkp8
- เวาลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.30 น.
วัดแห่งนี้ในอยุธยา อาจจะไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และสำคัญมากทีเดียวค่ะ การเดินชมรอบๆ วัดจะพบกับสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจ และอย่าลืมแวะกราบขอพรจากหลวงพ่อแขนลาย เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตด้วย สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ