แห่เทียนอุบล วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ต่อเนื่องมาจาก วันอาสาฬหบูชา ซึ่งจะพ่วงด้วย ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ที่ได้มีการสืบทอดต่อกันเรื่อยมาในประเทศไทย จนกลายเป็นที่มาของ ประเพณีแห่เทียน จังหวัดอุบลราชธานี และมีนักท่องเที่ยวรอไปเที่ยวชมความอลังการกันเป็นจำนวนมาแต่ละปี เพราะเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัด ที่ได้สืบทอดมานานกว่าร้อยปีครับ
ที่มาของ ประเพณีแห่เทียนอุบล
เป็นงานบุญประเพณีที่จัดสืบทอดติดต่อกันมานานกว่า 118 ปี ซึ่งทุกภาคส่วนของจังหวัด ต่างช่วยสนับสนุนให้มีการทำเทียนพรรษาตลอดกันทั้งเดือน ก่อนที่จะถึงวันเข้าพรรษา โดยการนำเอา ขี้ผึ้ง มาทำเทียนครับ ซึ่งในสมัยก่อนได้มีการเอานำเทียนเล่มเล็กๆ มามัดรวมกันให้เป็นกลายเทียนเล่มใหญ่ จากนั้นได้จัดขบวนเพื่อนำไปถวายวัด
ในเวลาต่อมาวิธีการทำเทียนได้พัฒนามากขึ้น เสริมการแกะสลักเข้ามาร่วม ซึ่งจะมีการนำขี้ผึ้งมาหล่อเป็นเทียนเล่มใหญ่ จากนั้นช่างฝีมือก็จะเข้ามาแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามต่างๆ แตกต่างกันไป โดยเฉพาะลวดลายของอีสานดั้งเดิมนั่นเองครับ
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2444 กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งท่านเป็นข้าหลวงต่างพระองค์ของรัชกาลที่ 5 ผู้ที่ได้มาปกครองหัวเมืองมณฑลอีสาน และได้อยู่พำนักที่เมืองอุบลราชธานีในเวลาต่อมา ท่านได้คิดให้มี การแห่ขบวนเทียนพรรษา ไปรอบ ๆ เมืองเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2444 เหตุเนื่องมาจาก ในสมัยแรก ๆ ยังไม่ได้มีการประกวดเทียนพรรษาแต่ก็มีชาวบ้านต่างร่ำลือกันต่อ ๆ ไปว่า เทียนคุ้มวัดนั้นงาม เทียนคุ้มวัดนี้สวย จึงทำให้เห็นว่าควรให้มีการประกวดเทียนพรรษาขึ้นมา แล้วนำไปแห่รอบเมือง ก่อนจะนำไปถวายพระที่วัดนั่นเอง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2483 ภายในจังหวัดอุบลราชธานี นายโพธิ์ ส่งศรี จึงได้เริ่มทำแม่พิมพ์ปูนซีเมนต์เพื่อใช้หล่อขี้ผึ้งเป็นทำลวดลายไทยเอาไปประดับติดพิมพ์บนเทียนพรรษา นับว่าเป็นการจัดทำเทียนพรรษาแกะสลักของช่างราษฏร์เป็นครั้งแรกเลยครับ และ นายสวน คูณผล นั้นก็ได้ทำลวดลายนูนสลับสีต่างๆ เพื่อส่งเข้าประกวด เทียนพรรษา จนได้รางวัลชนะเลิศ
กระทั่งหลังจากปี พ.ศ. 2511 นายอุตสาห์ และ นายสมัย แสงวิจิตร ได้ทำเทียนพรรษาที่มีขนาดใหญ่โตขึ้นมา โดยทำออกมาเป็นหุ่นและเรื่องราวต่าง ๆ ถือเป็นลักษณะของเทียนพรรษาขนาดใหญ่ จนได้กลายมาเป็นเทียนพรรษาแบบที่เราได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ครับ
ขบวนเทียนต้นพรรษา
ในปัจจุบันนี้ ได้มีการนำเอาต้นเทียนมาประกอบเป็น ขบวนต้นเทียนพรรษา โดยจะมีขนาด 10-15 เมตร และสูงราว ๆ 6 เมตร และใช้รถเทรลเลอร์ในการขนย้าย การตกแต่งต้นเทียน ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะมีภาพประกอบที่ทำด้วยเทียนเอาไว้เหมือนกัน อาจจะเป็นนารายณ์ทรงครุฑ หรืออื่น ๆ แล้วแต่เพราะในละปีจะไม่เหมือนกัน ทางด้านข้างก็จะมีเป็นภาพที่แกะสลักด้วยเทียน ซึ่งจะเป็นเรื่องราวของพุทธประวัติ ถือว่าเป็นงานที่มีความยิ่งใหญ่ของอุบลราชธานีมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2520
การจัดแสดงเทียนพรรษา รอบทุ่งศรีเมือง
ทางจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดให้มีการแสดงเทียนพรรษารอบทุ่งศรีเมือง ก่อนถึงวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่วัดต่างๆ ภายในจังหวัด ได้พากันเอานำเทียนพรรษาของตนเอง มาจัดแสดงไว้บริเวณโดยรอบของทุ่งศรีเมือง มีการตกแต่งประดับประดาไปด้วยดอกไม้และไฟอย่างสวยงาม โดยไม่ว่าจะเป็นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก หรือติดพิมพ์ รวมไปถึงเทียนโบราณ ด้วยเช่นกัน นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเดินชม โดยจะเริ่มจัดขึ้นในช่วงเย็นของวันอาสาฬหบูชา
พิธีการแห่เทียนพรรษา
สำหรับเส้นทางในการแห่เทียนพรรษา อยู่ที่บริเวณ ทุ่งศรีเมือง โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมถึงะอำเภอทุกอำเภอในจังหวัด ต่างส่งขบวนเข้ามาร่วมในงานนี้ ในแต่ละปีจะมีประมาณ 65 ขบวน ซึ่งแต่ละขบวนนั้นก็จะมีนางรำมีการฟ้อนรำ เพื่อแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน และการแห่เทียนจะเริ่มประมาณ 8 โมงเช้า ไปจนถึงช่วงบ่าย ๆ จนหมดขบวนขนวนแห่ครับ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ที่อัฒจันทร์ที่ทางจังหวัดด้ได้จัดเอาไว้ให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
เทศกาล งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี ปี 2567
สำหรับงานบุญใหญ่ ประเพณีแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี 2567 นั้น ได้มีการจัดกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การประกวดต้นเทียน การแสดงแสงสีเสียง พร้อมกับขบวนแห่เทียนพรรษา เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 24 สิงหาคม 2567 ภายใต้ชื่อของงาน “เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เมืองเทียน เมืองธรรม งามล้ำเมือง 4 แสง” และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมต้นเทียนได้ตลอดทั้งเดือน
สำหรับ การแห่เทียนอุบล ถูกสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน เป็นประเพณีสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ ที่ได้ความร่วมมือร่วมใจกันของคนในจังหวัดช่วยทำให้เกิดขึ้นมา ทั้งยังช่วยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่มีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนได้อย่างดี สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ